|
|
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 10 - 12 ส.ค. 2549
ตีข่าวเกี่ยวกับ โครงการคอคอดกระ
ถูกนำเข้ามาพิจารณาแล้ว วุฒิสภาเห็นชอบขุดคอคอดกระ
ชี้โครงการนี้จะสร้างประโยชน์ต่อไทยอย่างมหาศาลในอนาคต
โดยเฉพาะด้านรายได้
และดันไทยสู่ศูนย์กลางการขนส่งทางทะเล
เร่งเดินหน้าสร้างความเข้าใจและหาแรงหนุนจากภาคประชาชน
รศ.ดร.สถาพร
เขียววิมล
ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการขุดคอคอดกระ(คลองไทย)
วุฒิสภา กล่าวในการบรยายเรื่อง"การขุดคลองไทย :
เส้นทางธุรกิจใหม่ด้านการค้า การลงทุนของโลก"
ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยว่า
โครงการคอคอดกระจะสำเร็จได้ไม่ยาก
แต่ต้องมีความจริงจังจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะรัฐบาล
และประชาชน ต้องช่วยผลักดันให้เกิด
ทำความเข้าใจกับข้อสงสัยทุกๆอย่างที่มีอยู่
โดยในส่วนของตนและทีมผู้เกี่ยวข้องก็จะมีการจัดเสวนาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ตามที่ต่างๆ
เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน
ทั้งนี้ที่ผ่านมาโครงการคอคอดกระ
มีการหยิบยกมากล่าวถึงในทุกๆรัฐบาล
แต่ทุกรัฐบาลก็เงียบหายไป
ที่ผ่านมาทางวุฒิสภาได้ตั้งคณะกรรมการขึ้น เมื่อ 4
ปีก่อน เพื่อศึกษาและในวันที่ 24 มิ.ย. 2548
ที่ผ่านมาได้มีการเสนอเรื่องนี้ต่อวุฒิสภา
และได้มีมติเห็นชอบจากวุฒิสภา
แต่เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะเงียบ
ตนจึงมองว่าการที่จะทำให้โครงการนี้จะบรรลุจุดมุ่งหมายหรือไม่นั้น
คงจะต้องฝากเรื่องนี้ไว้กับประชาชนและสื่อมวลชน
ช่วยกันผลักดัน
ช่วยในการเผยแพร่เรื่องนี้ให้ได้มีการรับรู้มากที่สุด
ทางคณะทำงานต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม
เรื่องคอคอดกระ ถ้ามีประชาชนเห็นด้วยว่า
จะให้ดำเนินการเกิดขึ้นมากๆ
ทางรัฐบาลก็จะเห็นชอบด้วย
ถ้าเป็นความต้องการของประชาชน จากการศึกษาพบว่า
การขุดคลองคอดกระจะมีประโยชน์ในหลายๆด้าน
เพราะว่าเรื่องนี้จะสามารถช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นแน่นอนจากการขุดคลอง
ในอนาคตการแข่งขันในด้านการค้า
การลงทุนต่างๆจะรุนแรงกว่าปัจจุบัน
ประเทศจีนเป็นคู่แข่งที่หน้ากลัว
เพราะมีการพัฒนาในทุกๆด้าน โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมไทยก็จะสู้ได้ยากขึ้น
เพราะเรื่องของเทคโนโลยี หรือต้นทุนที่ต่ำกว่า
ถ้าสามารถผลักดันให้โครงการนี้สำเร็จได้ไทยจะได้รับประโยชน์สำคัญๆ
คือ ด้านระบบเศรษฐกิจ
ที่ไทยจะเป็นศูนย์การการขนส่งทางทะเล
สามารถสร้างรายได้มหาศาลในอนาคต ด้านการประมง
เพราะเรื่อทั้ง 2 ฝั่งทั้ง อ่าวไทย และอันดามัน
จะได้มีการไป-มาได้สะดวก ด้านอำนาจต่อรอง
เมื่อเสร็จ จะสามารถถ่วงดุลอำนาจทางเศรษฐกิจ
การเมือง เพราะเมื่อเสร็จคลองคอดกระ
จะกลายเป็นคลองเดินเรือหลักที่สำคัญของโลกทันที
ด้านการขนส่ง ช่วยลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า
โดยเฉพาะน้ำมันที่จะประหยัดไปได้หลายแสนล้านบาท
โครงการนี้จากการศึกษา
คาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นราว 8 แสนล้านบาท
ใช้เวลาในการขุดคลองประมาณ 5 ปี
และใชเวลาในการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ อีก 3 ปี
รวม 8 ปี ขนาดที่ขุดจะมีความกว้าง 200 เมตร
ที่ระดับน้ำลึก 40 เมตร
ระยะห่างของคลองไม่น้อยกว่า 1,000 เมตร
สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ 5 แสนตันสวนกันได้
ระหว่างคลองมีการสร้างสะพานข้าม 3 สะพาน และอุโมง
2 อุโมง เพื่อเชื่อมต่อทั้ง 2 ด้าน
มีเรือใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 200
ลำ
รศ.ดร.สถาพร กล่าวต่อไปว่า
ในอนาคตการใช้พลังงานเชื้อเพลิง
จะมีการใช้ก๊าซธรรมชาติมากขึ้น
ซึ่งก๊าซธรรมชาติเหลวจะต้องใช้การขนส่งทางเรือเท่านั้น
ในตอนนี้มาเลเซีย เป็นอันดับที่ 1 ในด้านนี้อยู่
ถ้าไทยสามรถขุดคอคอดกระได้สำเร็จ
ก็จะสามารถลงทุนกับพลังงานเชื้อเพลิงประเภทนี้
สร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้อีกมาก
และการลงทุนขุดคลองคอคอดกระก็จะถึงจุดคุ้มทุนได้ในเวลาไม่กี่ปี |
|